บรรยาย EP.21
19:40 PM
ตอนนี้เป็นเวลาที่เลิกงานแสนเศร้านี้แล้ว นักเรียนและผู้คนที่มาร่วมงานต่างพากันแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง นนท์ได้นำรถส่วนตัวของตัวเองมางานนี้โดยในรถมีเนียร์ ดอส พั้นช์ และตัวเขาเอง ส่วน
“กูกลับก่อนนะพวกมึง อย่ากลับดึกนะ” นนท์
“เคๆเพื่อน เจอกันที่หอ” บิว
นนท์โบกมือลาพวกซันที่ยังไม่กลับพลางเดินสวนไปพร้อมกับสามคนที่เหลือ นนท์กดปลดล็อกประตูรถที่กุญแจก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นรถคนละฝั่งกันกับเพื่อนๆ
“งั้นเดี๋ยวกูไปส่งมึงก่อนเลยนะพั้นช์” นนท์
“จัดไปเพื่อน เดี๋ยวกูจ่ายค่าน้ำมันให้” พั้นช์
นนท์ได้ตกลงว่าจะไปส่งพั้นช์ที่บ้านก่อนเพราะเนียร์กับดอสนอนอยู่หอเดียวกับเขา นนท์ไม่รอช้าที่จะสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าออกจากวัดนี้
“ไปก่อนนะเว้ยแฝด” พั้นช์
พั้นช์มองออกไปยังนอกหน้าต่างรถพลางพูดกับเพื่อนตัวเองที่เพิ่งเผาไป ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนกันหมดว่ามันเป็นเรื่องโกหก ไม่มีใครอยากให้แฝดตาย แล้วก็ไม่มีใครอยากให้เลฟตายด้วย
แต่มันเป็นเรื่องโกหกที่กลับกลายเป็นเรื่องจริงไปเสียดื้อๆ...
ตอนนี้เป็นเวลาที่มืดพอสมควรกับเส้นทางตรงนี้ ถนนเลนเดียวและข้างทางยังคงเป็นป่าอีกเช่นเคย มันไม่ต่างอะไรจากบรรยากาศเมื่อตอนที่มางานศพเลฟเลย อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกโศกเศร้าด้วยที่เป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้บรรยากาศรอบตัวมันเงียบผิดปกติ
ทั้งสี่คนในรถต่างไม่พูดไม่จากันจนกระทั่งออกมาจากประตูทางเข้าวัดแล้ว ดอสมองออกไปนอกกระจกแล้วกวาดสายตาไปรอบๆป่สข้างทาง มันมืดเสียจนน่าวังเวงไปหมด ไฟก็ไม่มีสักดวง เนียร์ไม่รอช้าที่จะเชื่อมบลูทูธของรถเข้ากับโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อหาเพลงเปิดฟังแก้เหงาหู
“กูถามจริง ถนนนี้ไม่คิดจะมีเสาไฟหน่อยเหรอวะ” ดอส
“นั่นดิ ตอนนั้นที่มารอบเลฟก็ไม่มีเสาไฟ” เนียร์
“งี้แหละมึงประเทศไทย มีไรดีบ้างอ่ะนอกจากหน้าตากู” นนท์
“โอ้ยอีควาย” พั้นช์
“ฮ่าๆๆๆ กูล้อเล่น” นนท์
ทุกอย่างในรถมันกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ทุกคนคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนอย่างเคย เพลงมันส์ๆที่เปิดกระหึ่มรถก็ทำให้ไม่เหงาหูแล้ว แต่ทว่า... เพลงที่เปิดยังไม่ทันได้ฟังจบ มันกลับไปเปลี่ยนเป็นเพลงอื่นแทนโดยที่ไม่มีใครไปแตะคลิปอื่นเลยด้วยซ้ำ...
นกขมิ้นเหลืองอ่อนเอย
ค่ำแล้วจะนอนที่รังไหน
“เฮ้ย เพลงเหี้ยไร” นนท์
“ไอเหี้ย นี่มันเพลงที่ไอเมฆฮัม!” ดอส
“ไอเนียร์มึงเปิดทำไม!?” พั้นช์
“กูไม่ได้เปิดเว้ย! มันไปของมันเอง” เนียร์
รังไหนนอนได้
สุมทุมพุ่มไม้เอย...ที่เคยนอน
ลมพระพายชายพัดเอย...มาอ่อนๆ
เจ้าก็ร่อนเอย...มานอนรัง...
“มึงปิดดิ้ไอเหี้ยกูหลอน!” ดอส
พั้นช์และดอสต่างพากันอุดหูเพราะไม่อยากได้ยินเสียงเพลงกล่อมลูกอันน่าสยองนี้ เนียร์พยายามกดปิดแล้วแต่มันกลับปิดไม่ได้ ทั้งสี่คนในรถเริ่มจะจิตตกไปตามๆกันแล้ว พวกเขาต้องทนฟังเสียงอันโหยหวนของเพลงไปจนจบจริงๆเหรอ?
มันไม่ใช่แบบนั้น... เพลงมันไม่ยอมหยุดให้เขา เสียงเพลงมันยังคงเล่นวนซ้ำต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับว่ามันจะไม่มีที่สิ้นสุด
“โอ้ยกูไม่อยากฟังแล้ว!” เนียร์
ทันทีที่เนียร์โวยวายออกมาด้วยความหวาดกลัว นนท์เอื้อมมือไปปิดบลูทูธอย่างไว ต้องขอบคุณเจ้าของรถที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ตอนนี้ทุกคนในรถขนลุกซู่ไปตามๆกัน บรรยากาศที่ว่าน่ากลัวแล้วยิ่งบวกกับไอเพลงเมื่อกี้มันยิ่งทำให้น่ากลัวเข้าไปใหญ่
“ไม่ต้องไปเปิดแล้วนะ ทนอยู่เงียบๆไปก่อนแล้วกัน” นนท์
“เออ...” พั้นช์
ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง รถที่เคยมีเสียงเพลงทำลายบรรยากาศความเงียบแต่ตอนนี้มันไม่มีแล้ว ผีตัวไหนกันที่มาแกล้งพวกเขาแบบนี้ มันน่าโมโหจริงๆ...
19:56 PM
“พวกมึง ทำไมกูรู้สึกว่าเราขับรถอยู่ที่เดิมวะ” นนท์
“... มึงว่าไงนะ” ดอส
“นนท์ กูไม่ตลก” พั้นช์
“กูไม่ได้พูดเล่น กูแค่รู้สึกว่าเราขับรถมานานแล้วนะ ทำไมมันยังไม่ออกจากเส้นทางนี้ซักทีวะ” นนท์
ทันทีที่นนท์พูดออกมา ทำเอาทั้งคันเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าออกความคิดเห็น เราไม่สามารถเถียงคนขับรถได้เพราะคนขับจำเส้นทางได้ดีกว่า นนท์เริ่มขับรถเร็วขึ้นเพราะความกลัวจนความเร็วอยู่ที่ 80 ทุกคนในรถต่างมองหาเส้นทางข้างๆเผื่อจะมีเส้นทางให้ออกไปจากตรงนี้ไวๆ
“มึงอย่าขับรถเร็ว สิงหาเตือนแล้วไง” เนียร์
เนียร์เริ่มรู้สึกว่าเพื่อนของเขาเหยียบคันเร่งเร็วผิดปกติจึงเอ่ยปากเตือน โชคดีที่นนท์เชื่อฟัง เขาค่อยๆลดความเร็วลงมาจนอยู่ในความเร็วที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาตอนนี้
แต่สิ่งที่นนท์คาใจอยู่คือรถมันขับอยู่ที่เดิมหรือเปล่า? นนท์จึงมองกระจกข้างทั้งสองเพื่อมองดูเส้นทางที่ตัวเองจากมา และมันก็ใช่ มันจะมีเส้าไม้ปักอยู่ข้างทางด้านขวาเขา นนท์ไม่ได้รู้สึกไปเองหรอกว่ากำลังขับวนอยู่ที่เดิม เพราะเขามองเห็นเสานั้นผ่านมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไอเหี้ย ชิบหายแล้ว!
นนท์คิดในใจ เขาเริ่มสติแตกมากขึ้นเรื่อยๆ! จนทำให้ขาข้างขวาของเขาเหยียบคนเร่งเร็วขึ้นอย่างอัตโนมัติ
“เฮ้ยนนท์! อย่าขับเร็ว!” เนียร์
“ไอนนท์เบา!!” พั้นช์
“เราโดนผีหลอก!” นนท์
นนท์ตะโกนขึ้นมาพลางสวดมนต์ในใจ เป็นใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ก็คงจะไม่เหลือสติแล้วเหมือนกัน แต่จู่ๆนนท์ก็เหลือบสายตาไปมองกระจกหลัง ซึ่งกระจกนั้นมันสะท้อนให้เห็นหน้าพั้นช์พอดี แต่ทว่านนท์ไม่ได้เห็นเป็นหน้าพั้นช์ มันกลับกลายเป็นหน้าของจูรินทร์!
“ไอเหี้ยยย!!!” นนท์
นนท์โวยวายลั่นรถ มือของเขาสั่นเทาจนไม่เป็นอันทำอะไร ความเร็ว 120/กิโลเมตร ความเร็วระดับนี้เริ่มอันตรายสำหรับทางมืดและเปลี่ยว เพื่อนๆในรถต่างพากันเรียกสติให้นนท์กลับมา แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว...
“นนท์อย่าขับเร็ว!” พั้นช์
“ตั้งสติดิวะมึง!!!” ดอส
นนท์มัวแต่จดจ่อกับสิ่งที่เห็นผ่านกระจกหลังจนไม่ได้ฟังที่เพื่อนพูดเลย จูรินทร์กำลังแสยะยิ้มด้วยสีหน้าที่น่ากลัว นนท์ไม่ได้มองทางเลยตอนนี้ ตาเขากลับแข็งทื่อและเอาแต่มองกระจกหลังอย่างเดียว
“มึงเห็นอะไรนนท์! มองทางดิวะ!” เนียร์
“จูรินทร์อยู่กับเราเว้ย! มันจะมาเอาชีวิตเรา!” นนท์
“มึงพูดเหี้ยอะไร มันไม่ตลกนะ!” พั้นช์
“ก็ที่เราไปสาบานกันไง ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป มึงคิดว่าไอแฝดมันจะยอมตายแค่สองคนเหรอ!?” นนท์
นนท์หันหลังมาคุยกับเพื่อนๆโดยที่ยังขับรถอยู่ ทุกคนได้รับรู้ร่วมกันแล้ว... ไม่มีใครคิดนอกจากนี้ได้แล้ว พวกเขาทั้งสี่คนปักใจเชื่อนนท์ไปแล้วเรียบร้อย
แล้วสิ่งนี้... ก็ไม่ทำให้ทั้งสี่คนคิดเลยว่า มันจะเป็นจริง
คำว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป มันมีอยู่จริง
แฝดมันกลับมาแล้ว
ใช่... พวกแฝดกลับมาเอาชีวิตตามรายบุคคล
“เฮ้ยไอนนท์ รถ!!!!!!” ดอส
.
.
.
และก็ตู้มมมมกลายเป็นโกโก้ครั้น5555
ตอบลบ( ใน5555มีน้ำตาซ่อนอยู่🥲 )
;-,
ตอบลบ