บรรยาย EP.6


 13:04 PM

ช่วงเวลาบ่ายๆนี้คงจะเป็นเวลาที่เด็กนักเรียนส่วนใหญ่กำลังเรียนอยู่ แต่มันไม่ใช่กับห้องม.6/7 เวลานี้เป็นคาบว่างของพวกเขานักเรียนบางคนอาจจะใช้เวลาว่างนี้ไปกับการฟุบนอนที่โต๊ะเก็บแรงเอาไว้เรียนคาบต่อไป หรือบางคนก็เล่นเกมกันเป็นกลุ่ม และกลุ่มของจูรินทร์เช่นกัน


เขาได้ตกลงกันในกลุ่มว่าจะเล่นไพ่อูโน่กัน มันเป็นไพ่ที่ชี้ชะตาของมิตรภาพ ซันหยิบกล่องไพ่อูโน่ขึ้นมาไว้บนโต๊ะพลางตะโกนเอ่ยชวนให้เพื่อนๆในห้องเขามาจอยกัน


ซันเริ่มนับผู้เล่นก่อนจะแจกไพ่อูโน่ให้ไปคนละเจ็ดใบ และกติกาของพวกเขาที่ตั้งไว้คือ ใครที่เหลือไพ่ใบสุดท้ายให้พูดคำว่า ‘UNO’ ส่วนใครชนะแล้วให้พูดคำว่า ‘WIN’ หากใครไม่พูดหรือลืมพูด จะได้จั่วไพ่เพิ่มอีกสองใบ


มันเป็นกฎที่พวกเขาตั้งขึ้นมาเพื่อให้การเล่นมันสนุกมากขึ้น อาจจะเหมาะกับการรอขำอย่างสะใจให้กับใครสักคนที่ดวงซวย ส่วนมากกติกาแบบนี้ เจมส์และซันจะเป็นคนที่ลืมพูดเสียส่วนใหญ่ ความบันเทิงมันจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้


ซันลงมือจั่วไพ่ในกองเพื่อสุ่มสีและเลขให้เปิดเป็นใบแรก การเล่นในครั้งนี้ พวกเขาเล่นแบบวนขวากัน คนแรกที่เริ่มก็คือซัน เขาได้วางไพ่ในมือเขาให้ตรงกับไพ่เปิดบนโต๊ะ ตามด้วยเมฆที่อยู่ถัดไปจากเขาทางด้านขวา


สัส กูไม่มี” เมฆ


จั่วเลยยย” ซัน


เมฆสบถออกมาอย่างหัวเสีย ไพ่ที่ซันลงไปมันไม่มีในมือเขา และไม่มีเลขที่ตรงกับไพ่ซันเลย เมฆจั่วไพ่ขึ้นมาพร้อมดูเลขและสี แต่มันกลับไม่ตรงกับซันอีกแล้ว... แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ เพราะเขาจั่วได้ไพ่ใบพิเศษ


และแล้วก็มาถึงตาบิวที่ต้องลงไพ่ต่อ เขาวางไพ่รัวๆเพราะว่าไพ่ในมือเขามีเลขและสีที่ตรงกับที่เพื่อนๆมี แต่คนที่อยู่ถัดไปจากบิวก็คือจูรินทร์ ซึ่งบิวได้ลงไพ่บล็อกใส่ ทำให้จูรินทร์ไม่ได้ลงไพ่ในรอบนี้


ไอเหี้ยบิว” จูรินทร์


โทษทีว่ะเพื่อน ฮ่าๆๆๆ” บิว


บิวเอ่ยเสียงหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ต่อไปตาเจมส์ที่ต้องลงไพ่ และเจมส์ก็ทำได้ดี เขามีไพ่ดีๆเต็มมือ เจมส์ไม่รอช้าที่จะลงไพ่ไปพร้อมกันสามใบ และมันทำให้ในมือของเจมส์ตอนนี้เหลือแค่สี่ใบเท่านั้น จูรินทร์นึกอิจฉาที่แฝดพี่ของเขาจะหมดไพ่ในมือและชนะไปเสียก่อนในขณะที่เขายังไม่ได้ลงเลยสักใบ


เกมอูโน่ได้ดำเนินมาจนมีผู้ชนะไปแล้วสองคนนั่นก็คือซันและเมฆ ทั้งสองคนนี้เซียนการเล่นไพ่อูโน่ ในรอบนี้ซันไม่ลืมที่จะพูดคำว่า UNO และ WIN มันจึงทำให้เขาชนะไปอย่างง่ายดาย


ตัดมาทางด้านจูรินทร์ที่โดนแต่บิวแกล้งจนไพ่ล้นมือ เขาโดนบวกสี่จนไพ่ในมือมีอยู่สิบสี่ใบ ในขณะที่เจมส์เหลือเพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น และเจมส์จะได้ชนะก็เพราะว่าแฝดพี่มีไพ่บวกสี่


มึงจะวินแล้วเหรอ” จูรินทร์


จูรินทร์เอ่ยถามออกไป แต่เจมส์ก็ไม่ตอบกลับมา เพียงแต่ยิ้มมุมปากและยักคิ้วให้เป็นการเยาะเย้ย จูรินทร์นึกขำในใจ เพราะตอนนี้เขาก็มีแต่ไพ่พิเศษทั้งนั้น จูรินทร์เลือกที่จะลงไพ่บวกสี่ให้เจมส์ไปสองใบ เท่ากับว่าเจมส์ต้องจั่วไพ่ไปแปดใบ นั่นเลยทำให้เจมส์ไม่ชนะในรอบนี้


ไอเหี้ย!!!” เจมส์


สม ไอควาย!! ฮ่าาาๆๆๆ” จูรินทร์


ไอเหี้ยเจมส์ ฮ่าๆๆ” คิมหันต์


โดนแล้วไอสัส” ไอซ์


เจมส์จั่วไพ่ในกองขึ้นมาพลางมองแฝดน้องของเขาด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น เขาจะได้ชนะอยู่แล้วแต่ต้องดันมาโดนบวกสี่แบบนี้ มันเป็นเกมที่ทำลายมิตรภาพโดยสมบูรณ์แบบแล้ว


บล็อกคิมหันต์ไม่ต้องเล่นมึงอ่ะ” เจมส์


เอ้าสัส ลงที่กูเฉย” คิมหันต์


เจมส์บล็อกคิมหันต์ไม่ให้ลงไพ่ในรอบนี้ และเกมก็ดำเนินมาเป็นเวลานับสิบนาทีได้ ตอนนี้มีแค่พั้นช์ เจมส์ จูรินทร์เท่านั้นที่ยังไม่ชนะ


อูโน่!!!” เจมส์


งั้นบวกไปอีกสองเลยเจมส์” จูรินทร์


แฝดพี่ยังพูดไม่ทันขาดคำ จูรินทร์ก็ลงไพ่บวกสองให้เจมส์ทันที มันหลายรอบแล้วที่จูรินทร์เอาแต่แกล้งไม่ให้เจมส์วินสักทีจนเจ้าคนหัวเหลืองเริ่มหงุดหงิด


ไอสัส มึงโกงปะเนี่ย!?” เจมส์


โกงเหี้ยไร” จูรินทร์


หลายรอบแล้วมึงอ่ะให้ไพ่บวกกูมาเนี่ย” เจมส์


ไอเวร ก็กูจะเก็บไพ่สีไว้ตอนสุดท้าย” จูรินทร์


ไหนมาดูดิ้” เจมส์


เฮ้ยเจมส์อะไรของมึงเนี่ย!?” จูรินทร์


เจมส์ลุกขึ้นจากที่นั่งข้างๆจูรินทร์ เขาพยายามจะกดไพ่ในมือของจูรินทร์ลงเพื่อดูว่ามีแต่ไพ่พิเศษหรือเปล่า ทั้งสองคนทะเลาะกันไปมาจนไม่มีใครสังเกตเลยว่ามันมีแก้วน้ำโกโก้ปั่นที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ และแล้วมือของจูรินทร์ก็ดันไปปัดแก้วน้ำจนได้


ไอเหี้ย!?” ซัน


อ้าวววว” พั้นช์


อดแดกเลยมึง” ไอซ์


น้ำโกโก้ที่หกออกจากแก้วเปื้อนไปที่พื้นไม้จนได้ แฝดทั้งสองมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่กก่อนที่จะเป็นจูรินทร์เปิดบทสนทนาขึ้น


ไม้ถูพื้นอยู่ไหนวะ” จูรินทร์


ในห้องเก็บของใต้บันไดอ่ะมึง” บิว


เออๆ” จูรินทร์


จูรินทร์อาสาเป็นคนทำความสะอาด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจทำก็ตาม จูรินทร์รีบเดินออกจากห้องไปให้ไว พลางบ่นพึมพำอย่างหัวเสีย


เจมส์นะเจมส์ ไอเหี้ยนี่...” จูรินทร์


เขาเดินผ่านห้องเรียนของพวกสิงหาก่อนจะมองเข้าไปยังในห้องเพื่อทักทายองศาที่ยักคิ้วให้เขาเล็กน้อย ขาคู่สวยเดินลงบันไดจากชั้นสามไปอย่างระมัดระวัง เพราะตึกสี่นี้มันเป็นตึกไม้ และบันไดก็เป็นไม้ด้วยเช่นกัน มีนักเรียนหลายคนแล้วที่เคยตกบันไดตึกนี้ เพราะมันหมดแรงเสียดทานไปหมดแล้ว รวมถึงตัวของเขาด้วยเช่นกันที่เคยตกบันไดจนก้นจ้ำเบ้า


จูรินทร์เดินลงมาถึงชั้นหนึ่งก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าห้องเก็บของใต้บันได เขาเอื้อมมือไปหมุนลูกบิดและดึงประตูเข้ามาหาตัว ของที่อยู่ในนั้นมีอุปกรณ์ทุกอย่างเกี่ยวกับการทำความสะอาด แต่ห้องเก็บของนี้มันแคบและเล็กเกินว่าจะเดินเข้าไปได้ ดังนั้นเขาจึงต้องย่อตัวเข้าไปแทน แถมยังไม่มีหลอดไฟให้ด้วย...


ไม้ถูพื้นเหรอ อยู่ไหนวะ...” จูรินทร์


เขาส่องไฟฉายจากมือถือพลางหาไม้ถูพื้นที่เขาต้องการ และเขาก็หามันจนเจอ จูรินทร์คว้าไม้ม็อบและเตรียมจะเดินออกจากห้องใต้บันไดนี้ แต่แล้วจู่ๆก็เกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น ประตูที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ปิดกระแทกหน้าเขาอย่างจัง


ปั้ง!


โอ้ย!... จิ๊...เหี้ยเอ้ย” จูรินทร์


จูรินทร์จับที่หน้าตัวเองด้วยความเจ็บ เขานึกว่าเป็นเพราะลมเลยทำให้ประตูมันปิด และในนี้ถ้าไม่มีแสงจากโทรศัพท์ก็จะมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลยด้วยซ้ำ เขาส่องไฟไปยังกลอนประตูก่อนจะไปหมุนมัน...


แต่ทว่า... มันกลับเปิดไม่ออก...


แกร่กๆๆๆ...


เฮ้ย!?” จูรินทร์


แกร่กๆๆๆ!!!!


ไอสัสใครแกล้งกูอ่ะ ปล่อยกูออกไปนะเว้ย!” จูรินทร์


มือคู่นั้นพยายามเปิดประตูแต่ก็เปิดไม่ออก เขาไม่คิดว่าจะเป็นเพราะผีหรืออะไรทั้งนั้น เขาคิดแค่ว่าตอนนี้เขากำลังโดนแกล้งอยู่


ฮ่าๆๆ...”


ในขณะที่เขาพยายามเปิดประตูอยู่นั้น หูสองข้างของเขาก็ได้ยินเสียงคนหัวเราะดังแว่วๆ เหมือนกับเสียงนั้นมันดังมาจากข้างนอก...


ใครหัวเราะวะ กูไม่เล่นนะเว้ย เปิดประตู!!” จูรินทร์


เขาตะโกนบอกให้คนที่อยู่หลังประตูนั้นเปิด แต่เขากลับไม่รู้เลยว่ามันไม่มีใครอยู่กับเขาในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ...


หึ


ไอสัสใครเล่นเหี้ยไร อย่าให้กูออกไปได้นะกูจะต่อยหน้าให้” จูรินทร์


สิ่งที่จูรินทร์พูดออกไปนั้น มันไม่ได้ทำให้มีเสียงตอบรับอื่นกลับมาเลยนอกจากเสียงหัวเราะ และด้วยความมืดในนี้มันเริ่มจะทำให้จูรินทร์เริ่มจะจินตนาการไปแล้ว...


“......ใครอยู่ข้างนอกครับ...” จูรินทร์


จูรินทร์ตั้งสติก่อนที่เขาจะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน แต่ก็เช่นเดิม ไม่มีเสียงตอบรับกลับมานอกจากเสียงหัวเราะ มันเริ่มทำให้จูรินทร์เริ่มสติแตกแล้ว


เฮ้ยเปิดดิวะ เปิด!!!!!!!” จูรินทร์


เขาพยายามเขย่าลูกบิดหลายครั้ง หาอะไรมาทุบแล้วแต่มันก็ไม่เปิดให้เขา และตอนนี้อากาศในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆนี้มันเริ่มจะหมดลง...


คนตัวเล็กเริ่มร้องไห้ออกมาเงียบๆ หลังบางพิงกำแพงก่อนขาทั้งสองข้างจะอ่อนแรงลง จูรินทร์ได้นั่งลงกองที่พื้นก่อนจะกอดเข่าและร้องไห้ออกมา


ฮึก...ฮือออๆ...”


“...” จูรินทร์


และแล้วเขาก็ต้องตกใจจนแทบช็อค เขาได้ยินเสียงร้องไห้ดังอยู่ในห้องนี้ จูรินทร์มั่นใจว่าในนี้มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น แล้วเสียงที่ร้องไห้ดังออกมาแผ่วๆมันคือเสียงใคร... หรือมันเป็นเพราะเขากำลังนั่งทับที่ใครบางคนอยู่...


จูรินทร์ช็อคจนทำอะไรไม่ถูก เขาพยายามเรียกร้องให้คนมาช่วยแล้วแต่เสียงมันก็ไม่ออก และแล้วเสียงร้องไห้อันน่าสยดสยองนั้นก็หายไป...


ดวงตาสีเทากวาดสายตามองความมืดในห้องนี้ ก่อนจะได้ยินเสียงผู้หญิงฮัมเพลงจนทำให้เขาสติแตกในที่สุด!!!


นกขมิ้นเหลืองอ่อนเอย

ค่ำแล้วจะนอนที่รังไหน

รังไหนนอนได้


ฮือออ ไม่เอาาา!!” จูรินทร์


สุมทุมพุ่มไม้เอย...ที่เคยนอน

ลมพระพายชายพัดเอย...มาอ่อนๆ

เจ้าก็ร่อนเอย...มานอนรัง...”


ไม่เอาาา!!!” จูรินทร์


นกขมิ้นเหลืองอ่อนเอย

ค่ำแล้วจะตายที่รังไหน


ฮึกฮือออ!! กูบอกว่าไม่เอาไง!!!!” จูรินทร์


เขากรีดร้องออกมาด้วยความกลัวสุดขีด มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาปิดหูพลางดิ้นทุรนทุรายอยู่ที่พื้น


รังไหนตายได้

สุมทุมพุ่มไม้เอย...ที่เคยตาย


กูไม่ฟัง!!!! โอ้ยยยยยยย!!!!” จูรินทร์


ลมพระพายชายพัดเอย...มาอ่อนๆ

เจ้าก็ร่อนเอย...มานอนตาย...”


พอได้แล้ว ฮืออๆ ฮึก... ไม่เอาแล้ว!!!” จูรินทร์


รังไหนตายได้!!!!!”


เสียงปริศนาดังขึ้นอย่างตะคอก ร่างของใครบางคนกำลังหวาดกลัวสุดขีด ตอนนี้เขาสติแตกจนเหงื่อออกเต็มไปหมด เขาพยายามขอร้องกับสิ่งที่มองไม่เห็นให้หยุดร้องเพลงนี้ เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าทันทีว่าซันเคยฮัมเพลงที่เมฆฝันเมื่อคืนให้ฟัง


และใช่... ตอนนี้เขาโดนแล้ว...


จูรินทร์กรีดร้องออกมาด้วยความสติแตก ก่อนที่เขาจะเงียบลงอีกครั้ง ตอนนี้เขาได้แต่ร้องไห้อยู่ในห้องแคบๆแบบนี้ เขาเริ่มจับใจความได้แล้ว เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงฮัมเพลง ที่เขาได้ยินมานั้น มันสื่อถึงเรื่องราวที่ผู้หญิงคนนั้นโดนในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ มันทั้งน่ากลัว หดหู่ และไม่มีความสุข


จูรินทร์!?” คิมหันต์


เสียงเรียกที่ดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก จูรินทร์เงยหน้าขึ้นและรีบมองไปยังต้นตอของเสียงนั้น เป็นคิมหันต์ที่มาตามหาเขาคิมหันต์ตกใจกับสภาพที่หันทันที จูรินทร์ใบหน้าแดงกล่ำไปด้วยการร้องไห้ คนตัวเล็กรีบลุกขึ้นวิ่งออกจากห้องเจ้ากรรมและโผลกอดคิมหันต์อย่างไม่รอช้า เขาซุกหน้าลงที่ไหล่หนาและกอดแน่น ความรู้สึกเปียกชื้นเหมือนกับน้ำตามันกำลังหยดลงที่ไหล่ของคิมหันต์อย่างไม่ขาดสาย


ไม่เป็นไรแล้ว กูอยู่นี่ ไม่ต้องกลัว” คิมหันต์


มัน..ฮือออ น่ากลัว กูไม่...ฮึก ไม่ไหวแล้ว!” จูรินทร์


ไม่ต้องกลัวแล้ว กูอยู่นี่นะ กูอยู่นี่” คิมหันต์


จูรินทร์พูดออกมาจนไม่เป็นศัพท์ ยิ่งคนตัวสูงพูดปลอบมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ได้รับกอดแน่นๆจากกายบางมากขึ้นเท่านั้น คิมหันต์ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กไปเจออะไรมาแต่ที่รู้ๆตอนนี้ร่างกายของจูรินทร์สั่นเทาเหมือนลูกนก คิมหันต์ถอยหลังออกมาพร้อมกับประคองคนตัวเล็กออกมาจากห้องมืดๆนั้น คิมหันต์ใช้เท้าปิดประตูเจ้ากรรมนี้และเอาหลังพิงประตูนั้นไว้ มือหนาค่อยๆผละกอดคนตัวเล็กพร้อมใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้


คิมหันต์มองใบหน้าที่เคยสดใสแต่ตอนนี้มันกลับมีแต่น้ำตาด้วยความเจ็บใจ คิมหันต์ได้แต่คิดในใจว่าทำไมเขาไม่มาเป็นเพื่อนจูรินทร์กัน ทำไมไม่ตามจูรินทร์มาตั้งแต่แรก...


ค่อยเล่านะ ตอนนี้ไปล้างหน้าล้างตัวก่อน เลอะเทอะหมดแล้ว” คิมหันต์


จูรินทร์พยักหน้าเป็นการตอบรับ ก่อนที่มือหนาจะจูงมือสวยไปยังห้องน้ำชาย คิมหันต์พาคนตัวเล็กมาหยุดอยู่ที่อ่างล้างมือ เขาปล่อยให้จูรินทร์ได้ล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อย ส่วนเขาก็พรหมน้ำใส่มือและเช็ดไปตามกางเกงและเสื้อนักเรียนของคนตัวเล็กที่เปื้อนฝุ่น เขาได้แต่สงสัยว่าทำไมคนที่เขาชอบไปตกอยู่ในสภาพแบบนั้นได้ ในเมื่อจูรินทร์ก็ดูเป็นคนที่ไม่ค่อยกลัวอะไรสักเท่าไหร่เลย...

ความคิดเห็น

  1. โห่น้องผีไม่น่ารักเลยนะ บังอาจมาแกล้งจูรินทร์เรา>:(

    ตอบลบ
  2. คุนพี่ไม่น่ารักเลย ลูกเราก็ตัวแค่นี้ปะ

    ตอบลบ
  3. ทุบผีได้มั้ย ฮืออ อยากทุบ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บรรยาย EP.29

บรรยาย EP.41

บรรยาย EP.40